ปัจจัยที่มีผลต่อความหนาแน่นของประชากร
1.
อัตราการเกิด
(natality
or birth rate) อัตราการเกิด (natality or birth
rate) คือ
จำนวนลูกที่เกิด/ตัวเมีย/ปี โดยอัตราการเกิดขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งมีชีวิต
บางชนิดออกลูกครั้งเดียวตลอดชีวิต บางชนิดออกลูกปีละหลายครั้ง
บางชนิดผลิตลูกตลอดเวลา เป็นต้น
อัตราการเกิดของประชากรจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ
1.
จำนวนตัวเมียที่อยู่ในระยะผลิตลูกได้
ปกติแล้วมีจำนวนน้อยกว่าจำนวนตัวเมียที่มีอยู่ทั้งหมด
2.
ความสามารถในการผลิตลูกโดยเฉลี่ยของตัวเมีย
(fecundity)
3.
จำนวนลูกที่ผลิตขึ้นได้จริงโดยเฉลี่ย
(fertility)
2. อัตราการตาย (mortality or death rate) อัตราตายของประชากรสิ่งมีชีวิตในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ สามารถนำเสนอในรูปของกราฟแสดงปริมาณความอยู่รอด (survivorship curves) หรือในรูปของตารางชีวิตเพื่อช่วยแสดงจำนวนตายทั้งหมดที่มีในประชากร
แมลงหลายชนิดมีอัตราตายสูงมากทำให้เหลือแมลงเพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ที่สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องจนตัวเต็มวัย ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออัตราตายมีทั้งจากปัจจัยที่มีและไม่มีชีวิต ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อระยะใดระยะหนึ่งในวงจรชีวิตหรือต่อหลายๆ ระยะก็ได้ เช่น ปริมาณน้ำฝน อาจมีผลกระทบทำให้มีอัตราการตายของเพลี้ยอ่อนทุกวัยในขณะที่แมลงเบียนบางชนิดเข้าทำลายหนอนผีเสื้อได้เพียงบางวัยหรือในบางระยะเท่านั้น อัตราการตายนี้ย่อมมีความผันแปรไปได้ตามกาลเวลาและสถานที่เช่นเดียวกับอัตราการเกิดนอกจากจะทราบว่าการตายทำให้จำนวนประชากรของสิ่งมีชีวิตลดลงแล้ว
นักนิเวศวิทยายังได้ศึกษาว่าอะไรเป็นสาเหตุของการตายในประชากร และแต่ละสาเหตุเกิดการตายมากน้อยเพียงใดด้วย สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการตาย คือ อายุขัยซึ่งเรา สามารถแบ่งอายุขัยของสิ่งมีชีวิตได้เป็น2 ประเภท ได้แก่
I.
อายุขัยทางนิเวศวิทยา
(ecological
longevity) เป็นอายุขัยโดยเฉลี่ยของแต่ละตัวของประชากรภายใต้สภาวะแวดล้อมอันใดอันหนึ่ง
II.
อายุขัยทางสรีรวิทยา
(physiological
longevity) เป็นอายุขัยโดยเฉลี่ยภายใต้สภาวะแวดล้อมเหมาะสม
สิ่งมีชีวิตจะตายเมื่อหมดอายุขัย
ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของอัตราการตายแบ่งได้เป็น7 ปัจจัย คือ
ความชราภาพ (aging) ความตายที่เกิดขึ้นจากความชราหรือหมดอายุขัย เรียกว่าเป็นความตายเนื่องจากผลทางสรีรวิทยา (physiological death)
ความสามารถในการอยู่รอดต่ำ
(low
vitality) ความสามารถในการอยู่รอดนับเป็นคุณลักษณะ
สำคัญทางพันธุกรรม ที่ช่วยให้สิ่งมีชีวิตสามารถต้านทานปัจจัยต่างๆ
ของสภาวะแวดล้อมที่อาจมีผลกระทบต่อประชากร
สิ่งมีชีวิตแต่ละตัวในประชากรย่อมมีขีดความสามารถที่แตกต่างกัน
เป็นผลให้ขีดความสามารถในการอยู่รอดของประชากรโดยเฉลี่ยเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราส่วนของขีดความสามารถของประชากรส่วนใหญ่
ปริมาณน้ำฝนอาจทำให้ประชากรแมลงจำนวนมากที่อ่อนแอไม่ชอบสภาพที่มีความชื้นสูงซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้เป็นลักษณะทางพันธุกรรม
อุบัติเหตุ
(accidents)
อุบัติเหตุเป็นปัจจัยสุดวิสัยและไม่อาจคาดคะเนได้ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการตายขึ้นได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นได้ทั้งเนื่องจากลักษณะทางสรีรวิทยา (เช่นลอกคราบออกมาไม่ได้
เหยียดปีกขยายออกไม่ได้) และทางนิเวศวิทยา(เช่น
สัตว์เคี้ยวเอื้องเล็มกินใบพืชโดยมีแมลงติดอยู่จึงถูกกินเข้าไปด้วย)
ลักษณะทางเคมีกายภาพ(physicochemical conditions) ลักษณะทั้งทางเคมีและทางกายภาพที่เกี่ยวกับอากาศ
น้ำ และพื้นผิวที่ประชากรอยู่
สภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรงย่อมมีผลให้อัตราตายสูงขึ้น
ศัตรูธรรมชาติ (natural
enemies)
ความขาดแคลนอาหาร (food
shortage
ขาดแหล่งคุ้มภัย(lack
of shelter)
3. การอพยพเข้าและการอพยพออก (immigration and emigration) โดยทั่วไปแล้ว การศึกษาความเปลี่ยนแปลงของประชากรจะไม่ใส่ใจกับปัจจัยนี้มากนัก เพราะถือว่ามีผลกระทบน้อยเนื่องจากมีการคาดว่าอัตราการอพยพเข้าและออกเท่ากันแต่ ก็มีการศึกษาเรื่องนี้บ้างจากประชากรของสิ่งมีชีวิตบนเกาะ
การอพยพเข้า (immigration)
เป็นการเคลื่อนย้ายของสิ่งมีชีวิตเข้าสู่สถานที่หนึ่ง
เป็นผลให้ขนาดของประชากรในสถานที่นั้นเพิ่มขึ้น
แต่ถ้าประชากรมีปริมาณที่มากเกินไปจนถึงจุดสูงสุดที่จะรองรับได้ (carrying
capacity) ก็จะมีผลให้ผู้อพยพเข้าที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
มีอัตราการตายเพิ่มขึ้น
การอพยพออก
(emigration)
เป็นการเคลื่อนย้ายประชากรสิ่งมีชีวิตจากสถานที่หนึ่งไปสู่สถานที่ใหม่เพื่อการอยู่รอดอาจจะเป็นการขาดอาหารเนื่องจากภัยธรรมชาติ
ความแห้งแล้ง หรือมีปริมาณประชากรมากเกินไป
ถ้าเกิดการอพยพอย่างต่อเนื่อง(ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น)ได้ยากจะทำให้ขนาดของประชากรลดลงอย่างชัดเจน
การอพยพช่วงสั้น(trivial
or non-migratory) เป็นการเคลื่อนที่ไปในระยะทางสั้นๆ
ใกล้กับแหล่งแพร่พันธุ์ เพื่อการหาอาหาร การผสมพันธุ์ หรือการวางไข่
นับเป็นกิจกรรมปกติที่เกิดขึ้น
การอพยพช่วงยาว(migratory)
เป็นการเคลื่อนที่โดยการบินอพยพเป็นระยะนับร้อยนับพันกิโลเมตร
โดยมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาอาหาร แหล่งแพร่พันธุ์ หรือแหล่งวางไข่โดยตรง
แต่เกิดจากความพร้อมใจและตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะอพยพของแมลงแต่ละตัวที่อยู่ภายในฝูงซึ่งอาจมีมากถึงหลายร้อยล้านตัว
ในขณะที่มีการอพยพแมลงมีอัตราตายสูงมากเนื่องจากในระหว่างทางอาจไม่พบแหล่งอาหาร
ถิ่นอาศัยชั่วคราว หรือแหล่งคุ้มภัยที่เหมาะสมสำหรับประชากรได้ทั้งหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น